แนะนำหนังสือ Time management 5 เล่ม

แนะนำหนังสือ Time management 5 เล่ม

5 หนังสือบริหารเวลา เปลี่ยนชีวิตให้มีประสิทธิภาพ ในยุคสมัยที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ หลายคนเผชิญปัญหา “เวลาไม่พอ” หนังสือบริหารเวลาจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เราจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้ขอแนะนำ 5 หนังสือดีที่ควรค่าแก่การอ่าน ดังนี้ 1. Deep Work โดย Cal Newport หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นไปที่การทำงานอย่างลึกซึ้ง (Deep Work) ซึ่งหมายถึงการจดจ่อกับงานที่ท้าทายความคิดโดยปราศจากสิ่งรบกวน นิวพอร์ตอธิบายว่าทักษะ Deep Work นั้นหายาก แต่มีค่าในยุคเศรษฐกิจแห่งความสนใจ และนำเสนอวิธีการฝึกฝนทักษะนี้ รวมไปถึงการจัดการสิ่งรบกวนและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน 2. Getting Things Done โดย David Allen หนังสือเล่มนี้เสนอระบบ GTD (Getting Things Done) สำหรับการจัดระเบียบความคิดและงานต่างๆ แอลเลนแนะนำวิธีการบันทึก จัดหมวดหมู่ และติดตามงานอย่างเป็นระบบ ช่วยให้ผู้อ่านสามารถจัดการกับงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเครียด และเพิ่มความมั่นใจ 3. The 7 Habits of Highly Effective…

สรุป หนังสือ Getting things done

สรุป หนังสือ Getting things done

“Getting Things Done” เป็นหนังสือเกี่ยวกับการจัดการเวลาและการทำงานของ David Allen ซึ่งในหนังสือเล่มนี้เขาจะสอนวิธีการจัดการเวลาและกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการใช้วิธีการที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถทำได้มากขึ้น สรุปเนื้อหาแบบละเอียดได้ดังนี้: 1. หลักการสำคัญของ Getting Things Done (GTD) 2. การบริหารเวลา 3. การจัดระบบเอกสาร 4. การตั้งเป้าหมายและวางแผน 5. การจัดการกับสิ่งที่ทำไม่ได้ 6. การพัฒนาการสร้างสรรค์ หนังสือ “Getting Things Done” มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และเป็นประสบการณ์จริงในการจัดการเวลาและกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คนที่อ่านเข้าใจและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการจัดการชีวิตและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ

สรุป หนังสือ the 7 habits of highly effective people

สรุป หนังสือ the 7 habits of highly effective people

“The 7 Habits of Highly Effective People” เป็นหนังสือที่เขียนโดย Stephen R. Covey ซึ่งเป็นหนังสือที่มีผลกระทบในด้านการบริหารจัดการตัวเองและการบริหารจัดการระบบของบริษัท หรือการทำงานในที่ทำงานอย่างยั่งยืน สรุปข้อสำคัญของหนังสือ “The 7 Habits of Highly Effective People” ได้ดังนี้: 1. Habit 1: Be Proactive (เป็นคนที่รับผิดชอบ) 2. Habit 2: Begin with the End in Mind (เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมาย) 3. Habit 3: Put First Things First (จัดลำดับความสำคัญ) 4. Habit 4: Think Win-Win (คิดให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์) 5. Habit 5:…

ถ้าเลือกกินวิตามิน 1 อย่าง จะเลือกกินอะไร

ถ้าเลือกกินวิตามิน 1 อย่าง จะเลือกกินอะไร

การเลือกกินวิตามินต้องพิจารณาจากความต้องการของร่างกายและสภาพสุขภาพของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยทั่วไปแล้ว มีวิตามินหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การเลือกกินวิตามินควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ โดยมีตัวเลือกที่คนส่วนใหญ่จะพิจารณาเลือกกันดังนี้: การเลือกกินวิตามินควรพิจารณาความต้องการของร่างกายและสภาพสุขภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนที่จะตัดสินใจในการบริโภควิตามินอะไรให้สุดความเหมาะสม หากต้องเลือกกินวิตามินได้เพียง 1 อย่างเท่านั้น ควรพิจารณาความสำคัญและความต้องการของร่างกายอย่างถี่ถ้วน เพื่อเลือกกินวิตามินที่มีประโยชน์สูงสุดสำหรับสุขภาพของคุณ ดังนั้น ขอแนะนำวิตามินที่สำคัญและมีผลต่อสุขภาพอย่างมาก โดยพิจารณาจากความต้องการทั่วไปของประชากรส่วนใหญ่ได้แก่: 1. วิตามิน D (Vitamin D) การบริโภควิตามิน D ในปริมาณเหมาะสม จะช่วยรักษาสุขภาพของกระดูกและระบบภูมิคุ้มกันให้สมบูรณ์ เพื่อป้องกันโรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีต่อการต่อต้านการติดเชื้อและโรคต่างๆ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนที่จะเพิ่มวิตามิน D ในอาหารหรือเสริมทางอาหารในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับระดับวิตามิน D ในร่างกายของคุณ

สรุปหนังสือ Think Like a Freak

สรุปหนังสือ Think Like a Freak

“Think Like a Freak” เป็นหนังสือที่เขียนโดย Steven D. Levitt และ Stephen J. Dubner ผู้เขียนของหนังสือเรื่อง “Freakonomics” และ “SuperFreakonomics” หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นการเสนอแนวคิดใหม่ๆ และวิธีการคิดที่เปลี่ยนแปลงได้ในการแก้ปัญหา ซึ่งสรุปหนังสือ “Think Like a Freak” ได้ดังนี้: ด้วยเรื่องราวและตัวอย่างที่น่าสนใจ เล่มหนังสือ “Think Like a Freak” เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้เรียนรู้และคิดแบบนักเศรษฐศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพและมองโลกในมุมมองที่แตกต่างไปด้วยการคิดแบบ Freakonomics ของเขาโดยเฉพาะ

อธิบายทฤษฎีสีแบบง่าย ๆ
|

อธิบายทฤษฎีสีแบบง่าย ๆ

ทฤษฏีสีเป็นสาขาหนึ่งของสีวิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับการระบายสีและการสร้างสี โดยในทฤษฏีสีจะสนใจถึงคุณสมบัติและพฤติกรรมของสีในสถานการณ์ต่างๆ และมีการตีความและการใช้สีในงานศิลปะ ออกแบบ และสถาปัตยกรรมอย่างเป็นทางการ ต่อไปนี้คือการอธิบายทฤษฏีสีแบบละเอียด: 1. สีเบสิกและรุ่นสี 2. ทฤษฏีสีของ Goethe 3. ทฤษฏีสีของ Newton 4. ทฤษฏีสีของ Itten 5. การใช้สีในงานศิลปะและออกแบบ 6. สีในสถาปัตยกรรม ทฤษฏีสีเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าใจคุณสมบัติของสี การใช้สีให้เหมาะสมและมีสไตล์ตามทฤษฏีสีที่เรียนรู้นี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้สีในงานศิลปะ ออกแบบ และสถาปัตยกรรมอย่างมีประสิทธิภาพได้มากขึ้น สำหรับบทความเกี่ยวกับทฤษฏีสี จะมีรายละเอียดและความเข้าใจที่ลึกซึ้งกว่านี้ เช่น การอธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสี การผสมสี การใช้สีในงานศิลปะและออกแบบอย่างละเอียด คุณสามารถเพิ่มเติมเนื้อหาดังนี้: 1. พื้นฐานของสี 2. การประยุกต์ใช้ทฤษฏีสีในงานศิลปะและออกแบบ 3. การปรับแต่งสี 4. การใช้สีในชีวิตประจำวัน 5. ความรู้เพิ่มเติม ด้วยข้อมูลเหล่านี้ คุณสามารถสร้างบทความที่สมบูรณ์และมีความเข้าใจในเรื่องของทฤษฏีสีได้ และมอบความรู้ที่มีประโยชน์ให้กับผู้อ่านได้อย่างแท้จริง หวังว่าความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฏีสีนี้จะเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ที่สนใจเรื่องนี้ได้ครับ!

การเลือกสีลิปให้เหมาะกับแต่ละคน

การเลือกสีลิปให้เหมาะกับแต่ละคน

การเลือกสีลิปที่เหมาะสมกับแต่ละคนนั้นมีหลักการและเทคนิคที่ควรพิจารณาดังนี้: การเลือกสีลิปที่เหมาะสมกับแต่ละคนยังขึ้นอยู่กับบุคลิกและสไตล์การแต่งตัวของแต่ละคนด้วย คำแนะนำข้างต้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการและความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล เลือกสีลิปที่เหมาะสมกับแต่ละคนเป็นสิ่งที่สำคัญในการตกแต่งเพื่อเสริมความงามและเน้นลุคที่สวยงามของคนนั้น ด้วยความหลากหลายของสีลิปที่มีอยู่ การเลือกสีที่เหมาะสมกับลิปสติกแต่ละสีผมจะช่วยเพิ่มเสน่ห์และปรับให้ลุคดูดีและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้น นี่คือเทคนิคการเลือกสีลิปให้เหมาะกับแต่ละคน: 1. สีผิวขาว 2. สีผิวอ่อน 3. สีผิวเข้ม การเลือกสีลิปที่เหมาะสมกับแต่ละคนจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมความงามและเน้นลุคที่น่าสนใจ อย่าลืมทดลองและปรับปรุงเสมอตามลุคและสไตล์ที่ต้องการนะคะ!

ถ่ายภาพบุคคลให้สวย

ถ่ายภาพบุคคลให้สวย

การถ่ายภาพบุคคลเป็นทักษะที่มีความสำคัญในวงการภาพถ่าย เพราะภาพบุคคลที่สวยงามและน่าสนใจสามารถแสดงอารมณ์และบุคลิกของบุคคลนั้นได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ขอแบ่งปันเทคนิคการถ่ายภาพบุคคลให้สวยตามนี้: 1. เลือกพื้นหลังที่เหมาะสม 2. ใช้แสงที่เหมาะสม 3. สร้างบรรยากาศ 4. การเรียงและการตั้งท่า 5. การจัดการแกนภาพ 6. การใช้เทคโนโลยี 7. การปรับแต่งภาพ 8. การให้คำแนะนำและปรับปรุง การถ่ายรูปบุคคลไม่ใช่แค่การดึงดูดความสนใจ แต่ยังเป็นการแสดงอารมณ์และบุคลิกภาพโดยสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจและมีเรื่องราว ดังนั้น ควรใส่ใจและฝึกฝนเทคนิคต่างๆ เพื่อถ่ายภาพบุคคลให้สวยและน่าสนใจอย่างมีคุณภาพสูง

เทคนิคการถ่ายรูปที่ช่วยให้รูปสวยขึ้น

เทคนิคการถ่ายรูปที่ช่วยให้รูปสวยขึ้น

การถ่ายรูปไม่ใช่เรื่องยากหรือซับซ้อนเท่าไหร่ แต่ต้องมีเทคนิคและความสามารถในการมองโลกในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามและน่าสนใจมากขึ้น ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับเทคนิคพื้นฐานที่ช่วยให้รูปถ่ายของคุณสวยขึ้นได้! 1. ความเข้าใจเกี่ยวกับกล้อง ก่อนที่จะถ่ายรูป ควรทราบถึงฟังก์ชั่นพื้นฐานของกล้อง เช่น ปรับ ISO, ความเร็วในการเปิดปิดชัตเตอร์, และ ปรับค่าระดับความยาวโฟกัส 2. การใช้แสง 3. มุมมองและความสวยงาม 4. การใช้ฟิลเตอร์ 5. ฝึกซ้อมและลองใหม่ๆ 6. การตัดแต่งรูปภาพ 7. การสื่อสารและเล่าเรื่องราว การถ่ายรูปเป็นการศึกษาและฝึกฝนที่ต่อเนื่อง จึงอย่าลืมฝึกซ้อมและลองใหม่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รูปภาพของคุณสวยงามและน่าสนใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ

What Moving Average line should I use?

What Moving Average line should I use?

การใช้เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average – MA) เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์กราฟราคา โดยมีหลายรูปแบบของเส้น MA ที่สามารถใช้ได้ แต่การเลือกใช้เส้น MA นั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่คุณต้องการวิเคราะห์ ดังนี้: การเลือกใช้เส้น MA นั้นจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์และระยะเวลาการเทรดของคุณดังนี้: คำแนะนำที่ดีคือการทดลองใช้เส้น MA ที่ต่างกันและดูว่าเส้น MA ไหนให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และรูปแบบการเทรดของคุณมากที่สุด บางครั้งก็อาจจะใช้การผสม MA แบบต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้ได้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด การใช้เส้น Moving Average (MA) ในการวิเคราะห์กราฟราคานั้นเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมและมีประโยชน์มากมายในการเทรด Forex และตลาดทางการเงินอื่นๆ อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ระยะเวลาของเส้น MA นั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และระดับของความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์แต่ละคน โดยมีเทคนิคอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ดังนี้: หลายคนอาจใช้เส้น MA ในการวิเคราะห์อย่างแตกต่างกัน ดังนั้นควรทดลองและปรับเทคนิคให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและวัตถุประสงค์ของคุณ